Effects of Foliar Fertilizer Application on Growth of Vanda Orchid | ผลของวิธีการให้ปุ๋ยทางใบต่อการเติบโตของกล้วยไม้แวนดา

English. Vanda is a potential orchid for export whereas it is long vase-life and good color which fascinated to customers. Fertilizer is an important factor to stimulate the growth of Vanda for high quality production. This experiment aimed to study the effects of appropriated fertilizer application on the growth of Vanda Pat Delight. The experimental design was completely randomized design (CRD) with 5 treatments and 20 replications per treatment, i.e. T1) use fertilizer grade 21-21-21 year round, T2) 13-27-27 year round, T3) 21-21-21 for 2 times then 13-27-27 for 3 times, T4) 21-21-21 for 4 times then 13-27-27 for 1 times and T5) no fertilizer use. The fertilizer concentration was 60 g/20 L of water. The application was done by spraying once a week with 100 ml of fertilizer per plant. The results showed that the fertilizer grade 21-21-21 for 4 times then 13-27-27 for 1 time (T4) was not significant difference on the number of leaf pairs and leaf greenness when compared with 21-21-21 year round (T1) which could increase plant height at 37.6 cm but had the smallest flowering percentage at 70 percent. In contrast to T4 which had 100 percent flowering and the highest on number of flowers per plant, the inflorescence length, flower diameter but was not significant with T1. However, it was significant difference with the control group. Therefore it should be concluded that fertilizer application by using 21-21-21 for 4 times then 13-27-27 for 1 time was optimum for promote plant growth and quality of flower.

Thai. แวนดาเป็นกล้วยไม้ที่มีศักยภาพในการส่งออก เนื่องจากมีอายุการปักแจกันนานและมีราคาสูงมีสีสวยเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้บริโภค ในการผลิตแวนดาให้มีคุณภาพสูงนั้น ปุ๋ยเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการเติบโต การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการให้ปุ๋ยที่มีความเหมาะสมต่อการเติบโตของกล้วยไม้แวนดา Pat Delight โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ จำนวน 5 กรรมวิธี กรรมวิธีละ 20 ต้น โดยให้พืชได้รับปุ๋ยที่ต่างกัน ได้แก่ กรรมวิธีที่ 1 ให้ปุ๋ยเกรด  21-21-21 ตลอดปี, กรรมวิธีที่ 2  ให้ปุ๋ยเกรด  13-27-27 ตลอดปี, กรรมวิธีที่ 3  ให้ปุ๋ยเกรด  21-21-21 จำนวน 2 ครั้ง สลับกับให้ ปุ๋ยเกรด 13-27-27  จำนวน 3 ครั้ง ตลอดปี, กรรมวิธีที่ 4  ให้ปุ๋ยเกรด  21-21-21  จำนวน 4 ครั้ง สลับกับให้ปุ๋ยเกรด 13-27-27 จำนวน 1 ครั้ง ตลอดปี  กรรมวิธีที่ 5  ไมได้รับปุ๋ย (ให้น้ำอย่างเดียว) พ่นปุ๋ยตามกรรมวิธีที่กำหนด ในอัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 100 มิลลิลิตรต่อต้น ผลการทดลองพบว่า การให้ปุ๋ยเกรด 21-21-21 จำนวน 4 ครั้ง สลับกับให้ปุ๋ยเกรด 13-27-27 จำนวน 1 ครั้ง (กรรมวิธีที่ 4) มีจำนวนคู่ใบและค่าความเขียวของใบไม่แตกต่างกันทางสถิติเมื่อเทียบกับการให้ปุ๋ยเกรด 21-21-21 ตลอดปี (กรรมวิธีที่ 1) ซึ่งความสูงต้นมากที่สุดเฉลี่ย 37.6 เซนติเมตร และมีเปอร์เซ็นต์การออกดอกน้อยที่สุดที่ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่กรรมวิธีที่ 4 มีเปอร์เซ็นต์การออกดอก 100 เปอร์เซ็นต์ และมีจำนวนดอกต่อช่อ, ความยาวก้านช่อดอก และเส้นผ่านศูนย์กลางดอกมากที่สุด ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติกับกรรมวิธีที่ 1 แต่มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรรมวิธีควบคุม ดังนั้นการให้ปุ๋ยเกรด 21-21-21 จำนวน 4 ครั้ง สลับกับ ปุ๋ยเกรด 13-27-27 จำนวน 1 ครั้ง จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมทำให้พืชมีการเจริญเติบโต และมีคุณภาพดอกดี